ตู้เสื้อผ้า…ทำไมต้องปิด

หนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่กินพื้นที่ และไม่ค่อยตอบสนองไลฟ์สไตล์ของชีวิตยุคใหม่ก็คือตู้เสื้อผ้า เทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เรามีเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมายจนยากจะเก็บไว้ในตู้ไม่กี่ใบ หรือถ้าหาทางเก็บเข้าไปได้จริงๆ มันก็แน่นและแออัดเกินไปจนหาของไม่ค่อยเจอ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายบ้านอยากจะโยนตู้เสื้อผ้าแบบเดิมๆ ทิ้งไป แล้วใช้ตู้เสื้อผ้าแบบอื่นๆ ที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์กว่า

สำหรับผู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในการใช้พื้นที่ Walk-in Closet คือตู้เสื้อผ้าในฝัน เพราะมันใหญ่พอที่จะจัดวางเครื่องแต่งกายได้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ และไม่ต้องกังวลว่าจะเก็บเสื้อผ้าที่เพิ่งช็อปปิ้งมาไว้ที่ไหนดี ขนาดของ Walk-in Closet ขึ้นอยู่กับจำนวนของที่เราอยากจะเก็บเอาไว้ ซึ่งอาจใช้พื้นที่เพียงบางส่วนของห้อง หรือใช้ทั้งห้องเลยก็ได้ นอกจากของจำเป็นอย่าง ราวแขวนเสื้อ ตู้ ลิ้นชัก กระจกเงา และไฟสว่างๆ แล้ว อย่าลืมวางม้านั่งเก๋ๆ สักตัว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายระหว่างเลือกเสื้อผ้า และสร้างบรรยากาศให้เหมือนห้องลองเสื้อของร้านตัดเสื้อหรูๆ

ส่วนบ้านที่ไม่มีพื้นที่มากพอสำหรับ Walk-in Closet ก็อาจลดขนาดลงมาเป็น Reach-in Closet ตู้เสื้อผ้าที่ฝังเข้าไปในผนัง ซึ่งสามารถติดตั้งราวแขวนเสื้อและชั้นต่างๆ ได้มากกว่าตู้เสื้อผ้าทั่วไป และช่วยให้ผนังดูเรียบโล่ง ไม่มีอะไรมาเกะกะสายตา

แต่ถ้าReach-in Closet ยังใช้พื้นที่มากเกินไป ทางเลือกที่น่าสนใจคือ Open Closet ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะทั้งดูดีมีสไตล์ และประหยัดเวลาในการหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่

ผู้ที่มีห้องนอนกว้างๆ อาจยกผนังฝั่งหนึ่งเพื่อทำเป็น Open Closet โดยติดตั้งชั้นวางของเหนือศีรษะ ราวแขวนเสื้อ และตู้ลิ้นชักแบบบิลต์-อินให้เพียงพอกับจำนวนเสื้อผ้าที่มีอยู่ ถึงจะดูเหมือนใช้พื้นที่พอๆ กับการตั้งตู้เสื้อผ้า แต่ Open Closet จะช่วยให้ห้องดูปลอดโปร่งมากกว่า สำหรับเรื่องของดีไซน์นั้น เจ้าของบ้านบางคนอาจชอบแบบเรียบๆ ที่กลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ในบ้าน แต่แฟชั่นนิสต้าหลายคนก็จัดเต็มกับสิ่งนี้ ด้วยการใช้วัสดุตกแต่งที่มีสไตล์ และการจัดแสงอย่างมืออาชีพ จนทำให้ Open Closet ดูโดดเด่นราวกับยกดิสเพลย์จากร้านของแบรนด์แฟชั่นดังๆ มาตั้งไว้ที่บ้านเลยทีเดียว

หากไม่อยากใช้เฟอร์นิเจอร์บิลต์-อิน ก็สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่มีอยู่ในท้องตลาด เช่น ราวแขวนเสื้อแบบตั้งพื้น ชั้นวางของที่ถอดประกอบและเลือกจำนวนชั้นเองได้ ตู้ลิ้นชักที่ซ้อนทับกันได้ และตู้เก็บรองเท้า ให้กลายเป็น Open Closet ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องได้เช่นกัน

สิ่งที่ต้องระวังสำหรับตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีประตูเหล่านี้ก็คือแสงแดดและฝุ่น ควรเลือกตำแหน่งตู้เสื้อผ้าที่ไม่ได้รับแสงแดดตรงๆ ตลอดทั้งวัน และคอยทำความสะอาดพื้นและชั้นต่างๆ อยู่เสมอ

เพียงเท่านี้ เราก็จะมีตู้เสื้อผ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรา