การอาบน้ำสามารถส่งผลต่อระดับพลังงานของคนเราได้ การอาบน้ำในตอนเช้าจะทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงไปตลอดทั้งวัน การอาบน้ำก่อนเข้านอนจะทำให้นอนหลับสบาย จิตใจสงบ และสามารถเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่น บางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น บางคนก็ชอบอาบน้ำอุ่น ไม่ว่าอาบอย่างไรก็ส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจทั้งนั้น เพราะการอาบน้ำจะช่วยลดความตึงเครียด ช่วยให้กล้ามเนื้อตื่นตัว ส่งผลให้เลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังมากขึ้น ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น เกิดความผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี
https://www.cleanandtoasty.com/
โดยปกติแล้วคนทั่วไปมักจะเลือกอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นแบบใดแบบหนึ่งตามความชอบและความเคยชิน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ รวมถึงอารมณ์และความต้องการในช่วงนั้นด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่าการอาบน้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น แบบเอาทั้งสองอย่างมาผสมกัน จะช่วยเพิ่มประโยชน์ได้มากกว่าการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นเพียงอย่างเดียว
โดยวิธีการก็เริ่มจากการอาบน้ำด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเป็นอันดับแรก ความร้อนที่ร่างกายได้รับจะมีผลทำให้เส้นเลือดขยายตัว และช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนของโลหิต แล้วสลับกับการอาบน้ำเย็น เพื่อให้เส้นเลือดที่เคยขยายตัวเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งการขยายและหดตัวอย่างสม่ำเสมอนี้จะช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดเข้าสู่อวัยวะสำคัญต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมอง หัวใจ ตับ หรือไต ทำให้อวัยวะต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการกระตุ้นปฏิกิริยาของร่างกายนี้จะทำให้เซลล์ประสาทมีความนิ่งและส่งผลให้สภาพจิตใจมีการผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยบำรุงผิวหนังให้เต่งตึงได้อีกด้วย
http://pleasantonglass.com
แต่สำหรับคนที่มีอาการป่วยหรือมีภูมิต้านทานน้อย การอาบน้ำแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เกิดอาการป่วยมากขึ้นและเป็นหวัดได้ง่าย นอกจากนี้ผู้สูงอายุก็ไม่ควรใช้วิธีนี้เช่นกัน เพราะพออายุมากขึ้น เส้นเลือดจะมีความเสื่อมเพิ่มมากขึ้นไปด้วย การทำให้เส้นเลือดขยายและหดตัวอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดเส้นเลือดแตก และส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจหรือสมองได้
จะเห็นได้ว่าในความมีประโยชน์ก็ยังแฝงโทษไว้อยู่เสมอ เราต้องเลือกปฏิบัติในสิ่งที่เหมาะที่ควรกับตัวเราให้มากที่สุด ถึงจะมีความสุขในทุกๆ สิ่งที่กำลังลงมือทำได้อย่างแท้จริง หากต้องการจะดูแลร่างกายตัวเองให้ถูกวิธีก็ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้วย
https://www.verywellhealth.com / https://vnmedbook.com
นอกจากนี้ยังมีภัยร้ายอีกอย่างหนึ่ง ที่ให้โทษและแฝงตัวมาในระหว่างที่เรากำลังอาบน้ำอยู่อย่างมีความสุข นั่นก็คือ “สารคลอรีนในน้ำประปา” นั่นเอง จะบอกว่าสารคลอรีนเป็นประโยชน์ก็เป็น แต่ก็ให้โทษแฝงมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับบางคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย สารคลอรีนอาจก่อให้เกิดอาการผิวแห้งตึง เมื่อผิวแห้ง ต่อมไขมันใต้ผิวจะผลิตไขมันออกมามากขึ้นเพื่อทดแทนความชุ่มชื้น ทำให้เกิดอาการผิวเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร และยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร ผิวหนังชั้นนอกก็จะยิ่งมีน้ำในชั้นผิวหนังลดลง ทำให้ผิวหนังแห้งและหยาบขึ้น มีโอกาสเกิดผิวแห้งได้ง่าย และมักทำให้เกิดอาการคันผิวหนังตามมา อาจเป็นขุยลอก และเป็นรอยแตกร่วมด้วย
http://www.kudospurebliss.com
ทางป้องกันคือ ควรอาบน้ำไม่เกินวันละ 2 ครั้ง และไม่ควรอาบน้ำหรือแช่น้ำนานไป ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว อาจใช้โลชั่นทาตัวหลังอาบน้ำ หรือใช้ฝักบัวที่มีสารแคลเซียมซัลไฟต์ช่วยกรองคลอรีนในน้ำประปาที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสารแคลเซียมซัลไฟต์สามารถใช้ได้ผลดีจริงไม่ว่าจะอาบน้ำด้วยน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาเรื่องผิวแห้งดีขึ้นหรือหมดไปได้
https://www.cosmo.ph
“เคล็ดลับการอาบน้ำอย่างมีความสุขนั้น ควรได้มีเวลาค่อยๆ อาบ ค่อยๆ ให้สายน้ำช่วยขับไล่ความเหนื่อยล้าออกไป ช่วงเวลาที่อาบน้ำควรเป็นช่วงเวลาที่ได้พักสมอง และโยนความทุกข์ที่แบกรับเอาไว้ออกไปให้หมดสิ้น”